การคลอดทางช่องคลอด และ การผ่าตัดคลอด – เปรียบเทียบประโยชน์และความไม่สะดวกของการคลอดทั้งสองรูปแบบ
การคลอดทั้งสองรูปแบบต่างก็มีประโยชน์และความไม่สะดวกที่แตกต่างกันไป นักวิจัยของโครงการ QUALI-DEC ได้ศึกษารวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากงานวิจัยที่ตีพิมพ์จากทั่วโลกเพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์ที่มีต่อสุขภาพของแม่และทารกจากการคลอดในแต่ละรูปแบบ
โครงการ QUALI-DEC จึงต้องการนำเสนอข้อมูลเหล่านี้ให้คุณทราบด้วยแหล่งข้อมูลที่เผยแพร่ในรูปแบบต่าง ๆ รวมทั้ง คู่มือ ที่สามารถดาวน์โหลดมาอ่านได้เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง
การคลอดทางช่องคลอด
ในการคลอดทางช่องคลอด หรือที่หลายคนอาจจะเรียกว่าการคลอดธรรมชาตินี้ ทารกจะแสดงความต้องการว่าอยากออกจากครรภ์มารดาโดยการเกิดอาการเจ็บครรภ์คลอด เพื่อที่จะได้คลอดออกมาผ่านทางช่องคลอด ซึ่งโดยสภาพของร่างกายมนุษย์แล้ว วิธีนี้จะเป็นวิธีที่ปลอดภัยเพราะธรรมชาติได้ออกแบบร่างกายผู้หญิงมาให้เหมาะกับการคลอดแบบธรรมชาติอยู่แล้ว และโดยส่วนใหญ่ก็มักจะะมอบประสบการณ์ทางบวกที่น่าจดจำให้กับผู้หญิงทุกคน ยกเว้นแค่ในบางกรณีที่จำเป็นจริง ๆ ที่อาจเกิดความเสี่ยงในระหว่างการคลอด
อาการเจ็บครรภ์เพราะการบีบรัดตัวของมดลูกนี้อาจจะบรรเทาได้ด้วยวิธีการบรรเทาความเจ็บปวดหลายอย่าง เช่น การนวด การกดจุด การฝังเข็ม การแช่น้ำอุ่นหรือการอาบน้ำอุ่น การใช้ยาระงับความเจ็บปวด การฝึกการหายใจ และการฉีดยาชาเข้าทางช่องเหนือไขสันหลัง หรือที่คนทั่วไปเรียกกันว่าการบล็อคหลัง
ในขณะที่คลอด หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินอาจเป็นไปได้ที่แพทย์จะต้องใช้เครื่องมือช่วยการคลอดบางชนิด เช่น คีมคีบ หรือ เครื่องดูดสุญญากาศ เพื่อช่วยให้ทารกคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัย หรือในกรณีที่จำเป็นจริง ๆ อาจจะต้องใช้วิธีการผ่าตัดคลอด แต่โดยส่วนมากแล้วผู้หญิงสามารถคลอดทางช่องคลอดได้เองด้วยไม่จำเป็นต้องใช้ยาช่วย
การพักฟื้นในโรงพยาบาลหลังคลอดสำหรับการคลอดทางช่องคลอด จะใช้เวลาประมาณ 2 วัน แต่สำหรับคุณแม่ที่ร่างกายแข็งแรงและเตรียมความพร้อมในการคลอดมาเป็นอย่างดีอาจจะใช้เวลาน้อยกว่านั้น
การผ่าตัดคลอด
คือการผ่าที่หน้าท้องและมดลูกเพื่อนำเอาตัวทารกออกมา เป็นการผ่าตัดทางหน้าท้องประเภทหนึ่ง ซึ่งจะต้องใช้วิธีการให้ยาชาร่างกายส่วนล่างหรือในบางกรณีอาจจะต้องให้ยาสลบ เนื่องจากเป็นการผ่าตัดจึงต้องทำที่ห้องผ่าตัด การพักฟื้นในโรงพยาบาลหลังการผ่าตัดคลอดจะใช้เวลามากกว่าการคลอดทางช่องคลอด โดยจะต้องพักฟื้นประมาณ 3-4 วัน
โดยปกติแล้วการผ่าตัดคลอดจะกระทำเนื่องจากมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ เช่น ปัญหาสุขภาพของแม่และทารก ที่เกิดขึ้นก่อนหรือในระหว่างการคลอด เช่น การตั้งครรภ์แฝด ตำแหน่งหรือท่าของทารกในครรภ์ ความเสี่ยงที่ทารกจะคลอดในท่าก้น การคลอดก่อนกำหนด อาการเจ็บป่วยของแม่ระหว่างการตั้งครรภ์ การที่แม่เคยผ่าตัดคลอดมาก่อน โดยหากจำเป็นจะต้องมีการผ่าตัดคลอดแพทย์จะเป็นผู้ตัดสินใจ โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะผ่าตัดคลอดได้ตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่ 39 ของการตั้งครรภ์
อย่างไรก็ตาม ควรตระหนักว่าการผ่าตัดคลอดนี้มีความเสี่ยงทั้งกับแม่และทารกและอาจเกิดผลกระทบต่อเนื่องได้ภายหลังจากการผ่าตัดคลอดด้วย
การเปรียบเทียบประโยชน์และความเสี่ยงของการคลอดแต่ละรูปแบบ
แพทย์หลายท่านอาจกล่าวว่ายังมีข้อมูลไม่เพียงพอเรื่องความเสี่ยงของการคลอดทางช่องคลอด ในขณะเดียวกันหลายท่านก็เชื่อว่าการคลอดโดยการผ่าตัดคลอดนั้นมีความเสี่ยงมากกว่าทั้งกับแม่และทารก และเราจะทราบข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างไร
การศึกษาของโครงการ QUALI-DEC ได้รวบรวมข้อมูลไว้แล้ว แต่ก่อนอื่นขอสรุปสั้น ๆ ถึงประโยชน์และความเสี่ยงของการคลอดในแต่ละรูปแบบก่อน
การคลอดทางช่องคลอด vs การผ่าตัดคลอด